เข้าสู่ระบบสมาชิก

Login

10 ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก

10 ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก

1.อลัน เชียร์เรอร์ 260ประตู

Newcastle United v Sunderland Premier League 1997

อลัน เชียร์เรอร์ ยอดกองหน้าสไตล์ อังกฤษ ขนานแท้และดาวซัลโวตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ที่ยากจะหาใครเทียบ

เขาฝากผลงานไว้ที่ 260 ประตู มากกว่า เวย์น รูนีย์ อันดับสองถึง 65 ลูก และยังคงเป็นคนเดียวที่ทำได้ 100 ประตูให้กับสองสโมสรที่แตกต่างกัน

แม้จะเกิดใน นิวคาสเซิล แต่ เชียร์เรอร์ ก็ถูก แจ็ค ฮิ๊กซอน แมวมองของ เซาแธมป์ตัน ทาบทามไปร่วมทีมตั้งแต่ยังเยาว์วัยและใช้เวลาฤดูร้อน ปี 1986 ไปกับการฝึกซ้อมร่วมกับแข้งเยาวชนของ นักบุญ

และแม้จะโชว์ฟอร์มได้เตะตาทุกสโมสรที่เขาไปร่วมทดสอบฝีเท้าด้วย แต่ท้ายที่สุดเขาก็เลือก เซาแธมป์ตัน สโมสรแรกที่ให้โอกาสเขาได้สัมผัสกับฟุตบอลระดับสูง

ตอนอายุ 17 เชียร์เรอร์ ทำแฮตทริกได้ในการประเดิมสนามอย่างเต็มรูปแบบใส่ อาร์เซนอล พร้อมทั้งกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำได้ในระดับสูงสุดของ อังกฤษ ไปโดยปริยาย

เป็นเมื่ออายุเพียง 21 ปี ที่ เชียร์เรอร์ ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากการทำไป 13 ประตูในลีกและ 21 ประตูในทุกรายการ จนทำให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส อดรนทนไม่ไหวต้องเบิกเงินมา 3.6 ล้านปอนด์เพื่อเซ็นสัญญากับเขาในช่วงฤดูร้อนปี 1992

2.แฮร์รี่ เคน 213ประตู

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : แฮร์รี่ เอ็ดเวิร์ด เคน

เกิดวันที่ 28 ก.ค. 1993

อายุ 28 ปี

เกิดที่ ลอนดอน , ประเทศอังกฤษ

ส่วนสูง 188 เซนติเมตร

หากจะให้พูดถึงกองหน้าที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษ ณ เวลานี้ หนึ่งในชื่อที่ทุกคนต้องพูดถึงคงเป็นเขาคนนี้ แฮร์รี่ เคน กองหน้าสัญชาติอังกฤษ ชายผู้ที่อยู่ในแถวหน้าของรายชื่อดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาคือผู้ที่เป็นทุกอย่างของ สเปอร์ส โดยในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด (2020-21) เขาครองตำแหน่งดาวซัลโวและการส่งให้เพื่อนทำประตู มากที่สุด ซึ่งจากสถิติดังกล่าวก็แสดงในเห็นถึงศักยภาพของเจ้าตัวว่าสูงแค่ไหน

3.เวย์น รูนีย์ 208ประตู

เล่นชุดใหญ่ให้กับ เอฟเวอร์ตัน ตอนอายุ 16 ปี ยิงประตูสุดสวยและถูกมองว่าเป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปี เอาเมื่ออายุ 17 ปี ก่อนย้ายทีมด้วยค่าตัวดาวรุ่งสถิติโลกตอนอายุ 18 ปี และเป็นนักเตะกำลังหลักของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึง ทีมชาติอังกฤษตั้งแต่ตอนนั้น

นี่คือกราฟความมหัศจรรย์ของ เวย์น รูนี่ย์ เมื่อครั้งอายุยังไม่พ้นวัยทีน … เด็กหนุ่มชาวเอฟเวอร์โตเนี่ยน โตมากับการถูกสื่อจับตาทุกฝีก้าว แล้วเขาก็ดันมีเรื่องคาว ๆ เรื่องฉาว ๆ ให้สื่อได้เล่นข่าวเป็นประจำ แต่ที่สุดแล้ว เขาคือนักเตะอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์

4.แอนดี้ โคล 187ประตู

เราทุกคนรู้จัก แอนดี้ หรือ แอนดรูว์ โคล ในฐานะกองหน้าคู่หูที่รู้ใจกันเป็นอย่างมากของ ดไวท์ ยอร์ค กับช่วงเวลาของเขาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โดยนอกจากจะเป็นดาวซัลโวลำดับที่สามของ พรีเมียร์ลีก แล้ว แอนดี้ ยังเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูถึง 50 ลูกได้เร็วที่สุดและเป็นผู้เล่นที่คว้าทั้งดาวซัลโวและตำแหน่งดาวแอสซิสต์ในปีเดียวกันเป็นคนแรกได้อีกด้วย

5.เซร์คิโอ อเกวโร่ 184ประตู

เซร์คิโอ ‘กุน’ อเกวโร เกิดวันที่ 2 มิถุนายนปี 1988 ในครอบครัวยากจน ชานกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา บิดาของเขามีอาชีพรับจ้างทั่วไป และมีรายได้เสริมจากการลงเล่นฟุตบอลให้ทีมท้องถิ่นช่วงสุดสัปดาห์ ดังนั้น พรสวรรค์เชิงลูกหนังส่วนหนึ่งจึงอาจมาจากบิดาของตัวเอง
.
“สิ่งที่ผมจำได้ดีที่สุดในวัยเด็กคือที่หน้าบ้านของผมมีสนามฟุตบอล และตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ผมก็ออกไปเล่นกับลูกบอลทุกวัน” อเกวโรเล่าความหลัง
.
สนามบอลที่ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์พูดถึง คือลานดินโล่ง ๆ ไร้หญ้า และมีกรอบประตูทำจากเศษไม้นำมาต่อกัน โดยกิจกรรมยามว่างของเขา ถ้าไม่ดูการ์ตูนอยู่หน้าทีวี ก็มาอยู่ที่สนามบอลแห่งนี้ทุกวัน ส่วนชื่อเล่น กุน (Kun) ที่สกรีนด้านหลังเสื้อแข่งของตัวเอง มาจากตัวการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง กุม-กุม (Kum-Kum) ที่เขาชื่นชอบ จนบรรดาญาติผู้ใหญ่ใช้เรียกแทนชื่อจริงมาตั้งแต่เด็ก
.
ประสบการณ์จากการเล่นฟุตบอลตั้งแต่เล็ก ผนวกพรสวรรค์ในตัว ทำให้กุนกลายเป็นนักเตะที่โดดเด่นกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน และได้เป็นนักเตะเยาวชนของทีมอินดิเพนเดนเต้ สโมสรฟุตบอลอาชีพในบ้านเกิดตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ

6.แฟรงค์ แลมพาร์ด 177ประตู

เขาเกิดวันที่ 20 มิถุนายน 1978ในย่าน รอมฟอร์ด กรุงลอนดอน เป็นลูกของ แฟรงค์ แลมพาร์ด (ซีเนียร์) อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ และลุงเขยของเขาคือ แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ผู้จัดการทีมชื่อดัง และเป็นลูกพี่ลูกน้อง เจมี เร้ดแนปป์ อดีตนักเตะดังของลิเวอร์พูล (คุณแม่ของ แลมพาร์ด และคุณแม่ของ เจมี่ เร้ดแนปป์ เป็นพี่น้องกัน) นั่นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาถูกหล่อหลอมเรื่องฟุตบอลมาได้อย่างไร ในเส้นทางอาชีพนักเตะ และ เส้นทางการคุมทีม

เขาเริ่มสร้างชื่อในเส้นทางค้าแข่ง ด้วยการเป็นนักเตะเยาวชน ของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ ลุงเขย และพ่อ ของเขาคุมทีมอยู่ในช่วงเวลานั้น ในปี 1994 และถูกสวอนซี ยืมไปใช้งาน 1ปี 1995/96 และจากนั้นเขาก็สร้างผลงานพิสูจน์ตัวเองว่าเพราะไม่ใช่ ลูกพ่อ หลานลุง เขาแสดงฝีเท้าจนติดทีมชาติอังกฤษรุ่นเล็ก u21 ในปี1997 และติดธงชุดใหญ่ ในปี 1999 จนในที่สุดไปเข้าตาสโมสรร่วมกรุงลอนดอน เชลซี

เขาย้ายไปร่วมทีม เชลซี ในปี 2001 ด้วยค่าตัว 11ล้านปอนด์ และก็เป็นที่นี่ ที่เขาสร้างเกียรติยศมากมาย เขาอยู่กับเชลซี 13 ฤดูกาล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3สมัย , เอฟเอคัพ 4สมัย , แชมป์ลีกคัพ 2สมัย , แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยยส์ลีก 1สมัย , แชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก 1สมัย

7.เธียร์รี่ อองรี 175ประตู

หากถามว่าใครคือนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ หลายคนก็คงมีคำตอบในใจกันมากมาย แต่สำหรับผลโหวตจากทาง Betfair และ Yougov ปรากฏว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ลงมติให้ เธียร์รี อองรี สุดยอดกองหน้าตลอดกาลของ อาร์เซนอล เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคพรีเมียร์ ลีก

เนื่องในโอกาสที่ลีกฟุตบอลสูงสุดของอังกฤษอย่าง พรีเมียร์ ลีก เดินทางมาถึงฤดูกาลที่ 31 ในชื่อปัจจุบัน “Betfair” บริษัทรับพนันถูกกฏหมาย และ “YouGov” บริษัทด้านวิเคราะห์ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ได้จับมือกันเปิดโหวตให้แฟนๆ จำนวน 1,000 คน มาลงคะแนนกันว่าใครคือนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในสายตาพวกเขา

ผลปรากฏว่า อองรี ตำนานดาวยิงแห่ง อาร์เซนอล ได้รับคะแนนโหวตไปถึง 15% มากที่สุดของผลสำรวจ ขณะที่อันดับ 2 คือ คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนอันดับ 3 เป็น อลัน เชียร์เรอร์ เพชฌฆาตตลอดกาลจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

อองรี มีผลงานที่พิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ของเขามากมายในช่วงเวลาที่สวมยูนิฟอร์มของ “ปืนใหญ่” ตั้งแต่ปี 1999-2007 ลงสนามยิงไป 175 ประตูจาก 258 นัดใน พรีเมียร์ ลีก อยู่อันดับ 7 ของตารางดาวซัลโวตลอดกาลในลีก ซึ่งประตูของเขาช่วยพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ไปได้ 2 สมัย รวมถึงสร้างตำนานแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003-04

ไม่เพียงแต่ผลงานในลีก ตำนานกองหน้าชาวฝรั่งเศส ยังมีส่วนร่วมพา อาร์เซนอล เถลิงแชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ คอมมูนิตี ชิลด์ 2 สมัย ซึ่งผลงานความยิ่งใหญ่ของเจ้าตัวทำให้ อาร์เซนอล ได้สร้างรูปปั้นไว้หน้าสนาม เอมิเรตส์ สเตเดียม เป็นการสดุดีให้แก่เขาด้วย

8.ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ 163ประตู

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ เริ่มต้นเล่นให้กับทีมเยวชนของ ลิเวอร์พูล ในปี 1991 ก่อนจะเซ็นสัญญาอาชีพในวันที่ 9 เมษายน 1992 เมื่ออายุครบ 17 ปี จากนั้น ฟาวเลอร์ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มกราคม 1993 ในฐานะตัวสำรองในรายการเอฟเอ คัพที่พบกับซึ่งพบกับโบลตัน โดยในปีนั้นฟาวเลอร์ช่วยให้ทีมชาติอังกฤษชุด ยู-18 คว้าแชมป์ ยู-18 ยูฟ่า แชมเปียนชิพได้อีกด้วย โดยเจ้าตัวทำประตูแรกให้กับลิเวอร์พูลได้ในเกมที่พบกับฟูแล่มในลีก คัพ รอบแรกซึ่งลิเวอร์พูลชนะไป 3-1 เมื่อวันที่ 22 กันยายน 1993

เด็กหนุ่มเท้าซ้าย กดคนเดียว 5 ตุง ในเกมกับ “เจ้าสัวน้อย” เลกสอง ที่แอนฟิลด์ และกลายเป็นนักเตะคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูล ที่ยิง 5 ประตูในนัดเดียว ถัดมาฟาวเลอร์ทำแฮตทริกแรกในการลงเล่นให้ลิเวอร์พูลได้ในเกมที่พบกับเซาแธมป์ตัน ซึ่งต่อมาเค้าถูกเรียกตัวให้ไปติดทีมชาติอังกฤษชุด ยู-21 ในเกมที่พบกับซาน มาริโน ในเดือนพฤศจิกายน 1993 โดยเค้าสามารถทำประตูได้ในเวลาเพียง 3 นาที

ในฤดูกาล 1994/95 ฟาวเลอร์ได้ลงเล่นถึง 57 เกมและมีส่วนที่ทำให้ลิเวอร์พลูคว้าแชมป์ลีก คัพมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยในฤดูกาลนี้ฟาวเลอร์สามารถสร้างสถิติให้กับตัวเองด้วยการเป็นนักเตะที่ทำแฮตทริกได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ ลีกเมื่อเค้าใช้เวลาเพียง 4 นาที 33 วินาที ในการยิง 3 ประตู ในเกมที่พบกับอาร์เซน่อล และในปีนั้นฟาวเลอร์ก็ได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ PFA (ฟาวเลอร์ได้รางวัลนี้ 2 ครั้งในปี 1995 และ 1996)

9.เจอร์เมน เดโฟ 162ประตู

เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงวัยเก๋าที่ยังเตะปี๊ปดังและกำลังถล่มประตูอยู่ในลีก สก็อตแลนด์ กับ เรนเจอร์ส ทีมของ สตีเวน เจอร์ราร์ด

และแม้เขาจะไม่เคยคว้าราวัลดาวซัลโวมาครองได้แม้แต่ปีเดียวตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขาไม่ว่าจะกับลีกไหนหรือในประเทศใดก็ตาม แต่ เดโฟ ก็ยังรักษาความสม่ำเสมอจนสามารถกระโดดเข้ามาเป็นอันดับที่ 8 ในยอดดาวยิงของ พรีเมียร์ลีก ทั้ง 20 อันดับในลิสต์นี้ด้วยจำนวน 162 ประตูจาก 496 เกม

นี่คือเรื่องราวของดาวยิงพระรองที่เพิ่งจะอายุ 39 ปี มาหมาดๆกับการพเนจรของเขาที่มักจะมีประตูตามไปด้วยเสมอ

10.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 156ประตู

การได้ย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ถือเป็นการก้าวกระโดดอย่างมากของ ซาลาห์ และเขาก็หวังจะสร้างชื่อกับ เชลซี ให้ได้ ทว่าทุกอย่างมันกลับไม่ได้โรยไปด้วยกลีบบกุหลาบ เมื่อแผงกองกลางของทัพ “สิงห์บลูส์” ในชุดนั้น แข็งแกร่งและยอดเยี่ยมอย่างมาก เพราะมีทั้ง เชส ฟาเบรกาส, ออสการ์, เอเดน อาซาร์, เนมานย่า มาติช รวมทั้ง จอห์น โอบี มิเกล ทำให้เขาไม่สามารถเบียดลงเล่นเป็นตัวจริงของทีมได้

ซึ่งจากการค้าแข้งที่นี่ในซีซั่นแรก เจ้าตัวได้ลงสนามเพียง 13 นัดเท่านั้น ทำให้ ซาลาห์ เลือกที่จะขอย้ายออกจากทีม เพื่อที่จะหาโอกาสในการลงสนาม ซึ่ง เชลซี ก็ไม่ขัดขวางแต่อย่างใด เมื่อได้ทำการปล่อยตัวเขาให้ย้ายไปร่วมทีม ฟิออเรนติน่า ทีมลูกหนังชื่อดังในศึกกัลโช่ เซเรีย อา

การย้ายมาเล่นกับ ฟิออเรนติน่า เจ้าตัวก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่เขาก็ค้าแข้งที่นี่ได้เพียงครึ่งซีซั่นเท่านั้น เขาก็ต้องย้ายทีมอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวต้องการที่จะย้ายไปร่วมทัพ โรม่า ทีมคู่แข่งร่วมลีก แมัว่าทัพ “ม่วงมหากาฬ” ต้องการจะซื้อขาด ทว่า ซาลาห์ ก็ไม่ต้องการอยู่นี่ถาวร จนในที่สุดก็ได้ย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของทัพ “หมาป่ากรุงโรม” สมดังตั้งใจ

การย้ายมาเล่นในรูปแบบการยืมตัว ซาลาห์ ก็ระเบิดฟอร์มการเล่นได้อย่างร้อนแรง ยิงไปถึง 15 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 42 เกมในทุกรายการ กลายเป็นตัวหลักที่ทีมจะขาดไม่ได้เลย ซึ่งทำให้ โรม่า ไม่ลังเลใจเลยที่จะซื้อขาดเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์

และในซีซั่นที่สองกับ โรม่า นี้เอง ที่ ซาลาห์ ระเบิดฟอร์มการเล่นได้อย่างสุดยอดอย่างมาก เขายิงประตูไปถึง 19 ลูก กับอีก 15 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 41 นัดในทุกรายการ จนได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรไปครองอีกด้วย

และแล้วฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของ ซาลาห์ นี้เอง ที่กำลังจะนำพาให้เจ้าตัวกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เมื่อ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ต้องการที่จะสร้างทีมขึ้นมาใหม่ เพื่อการนำทัพ “หงส์แดง” กลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ในลีกอังกฤษให้ได้ และกำลังมองหาขุมกำลังในแนวรุกเข้ามาสู่ทีม และก็ไปต้องตาต้องใจกับฟอร์มอันร้อนแรงของดาวยิงทีมชาติอียิปต์ และหวังที่จะสอยตัวมาร่วมทีม

 

 

หากท่านใดสนใจสมัครให้กดลิ้งนี้ หรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมาได้ที่…

https://member.ufafun88.fun/register/?s=google

หรือแอดไลน์

https://lin.ee/omb8BU5

บริการอื่นๆนอกเหนือจาก 10 ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก

แชร์บทความนี้ให้เพื่อน

Facebook
Twitter
VK

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *