เข้าสู่ระบบสมาชิก

Login

หมดยุคของยอดกุนสือ

หมดยุคของยอดกุนสือ

หมดยุคเป๊ป-คล็อปป์? เหตุใดสองยอดกุนซือถึงผลงานร่วงหนักในฤดูกาลนี้

เป๊บ กวาดิโอล่า และเยอร์เก้น คล็อปป์ คือสองกุนซือที่กำลังตกอยู่ใต้คำวิจารณ์อย่างหนัก หลังพวกเขาทั้งคู่ไม่สามารถแสดงฟอร์มของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น แถมยังไม่มีท่าทีว่าจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้เมื่อไหร่

ยิ่งเมื่อมองไปยังความสำเร็จของกุนซือหน้าใหม่ เช่น มิเกล อาร์เตต้า หรือ เอริค เทน ฮาก นั่นจึงนำมาสู่คำถามว่ายุคสมัยของสองกุนซือดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีกจบสิ้นลงแล้ว หรือความจริงพวกเขาเพียงแค่โชคร้าย และกำลังรอเวลาให้ทุกอย่างกลับมาเป็นใจ เพื่อกลับมาทวงคืนสิ่งที่ควรจะเป็นในภายหลังกันแน่ ?

นักเตะเจ็บคือปัญหาใหญ่

เหตุผลแรกที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ไม่สามารถแสดงผลงานไร้เทียมทานเหมือนอย่างฤดูกาลก่อนได้ในซีซั่นนี้ คือ “ปัญหาอาการบาดเจ็บ” ที่รุมเร้าเข้าโจมตีทั้งสองทีมตลอดช่วงครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงตอนนี้นั้น สถานการณ์ส่วนนี้ยังคงเลวร้าย จนกลายเป็นโจทย์ยากให้ทั้ง เป๊บ กวาดิโอล่า และเยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องนั่งแก้ไขอย่างเคร่งเครียดต่อไป

สำหรับทัพเรือใบสีฟ้า ความจริงที่พวกเขาเผชิญหน้ากับปัญหาบาดเจ็บ แต่กลับไม่สามารถรับมือความเปลี่ยนแปลงกระทันหันนี้ได้ถือเป็นน่าประหลาด เพราะปัจจุบันนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือสโมสรฟุตบอลที่มีขุมกำลังแข็งแกร่งที่สุดในโลก นับแค่เซ็นเตอร์แบ็ค 5 คนของพวกเขาที่ยืนเป็นตัวจริงให้กับ 5 ชาติในศึกฟุตบอลโลก 2022 ก็ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าขุมกำลังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดเยี่ยมแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานของพรีเมียร์ลีกเพิ่มสูงขึ้นมากในปัจจุบัน เห็นได้ชัดจากการขับเคี่ยวเพื่อแย่งชิงแชมป์คาราบาว คัพ ที่เข้มข้นขึ้นมาก จากเคยถูกล้อเลียนว่าเป็นแชมป์ของทีมสำรอง หลังทัพเรือใบสีฟ้าผูกขาดถ้วยรางวัลนี้ถึง 5 สมัย ในช่วงปี 2016-2021 ซึ่งตัดภาพกลับมายังปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกรอบอย่างรวดเร็วในรายการดังกล่าวมาสองปีติดต่อกันแล้ว

นี่คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ขุมกำลังอันแข็งแกร่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ดีพอจะทำให้พวกเขาครองความเป็นใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษแบบผูกขาดได้อีกแล้ว ยิ่งถ้าต้องเผชิญกับปัญหานักเตะบาดเจ็บต่อเนื่องขึ้นมา มีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อยที่เป็บ กวาดิโอล่า จะไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์เกิดควบคุมนี้ไหว

 

 

ช่างเป็นโชคร้ายของกุนซือชาวสเปนที่สถานการณ์ไม่เป็นใจเหล่านี้กลับมาเกิดขึ้นกับเขาในฤดูกาล 2022-23 เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องแบกรับปัญหานักเตะบาดเจ็บตลอดช่วงซีซั่นที่ผ่านมา เพราะนอกจาก เจา คันเซโล่ แล้ว

ตัวหลักในแนวรับรายอื่น ไล่ตั้งแต่ รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์ต, จอห์น สโตนส์, ไคล์ วอล์คเกอร์ หรือ นาธาน อาเก้ ต่างเคยเจอปัญหาบาดเจ็บ จนไม่พร้อมเป็นตัวเลือกลงสนามแล้วทั้งสิ้น

แม้ก่อนปิดตลาดหน้าร้อนจะมีการซื้อ มานูเอล อาคานยี่ เข้ามาสู่ทีม แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้เสถียรภาพในแนวรับเกิดขึ้นได้ เพราะผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย-ขวา ของทัพเรือใบสีฟ้า ยังคงหาจุดลงตัวไม่ได้ถึงตอนนี้ เมื่อบวกกับนิสัยของกวาดิโอล่าที่ชอบทดลองอะไรใหม่ ๆ เมื่อทีมมีปัญหา นั่นยิ่งทำให้เกมรับของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่เคยถูกแก้ไขอย่างที่ควรจะเป็น

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ถือเป็นอีกทีมที่เจอปัญหากองหลังบาดเจ็บต่อเนื่องไม่แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยในบางช่วงฤดูกาล เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องส่ง โจ โกเมซ ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คตัวจริง เนื่องจาก โจเอล มาติป และอิบราฮิมา โกนาเต้ ไม่พร้อมเป็นตัวเลือก โดยเฉพาะรายหลังที่เจ็บออดแอดตลอดฤดูกาล จนไม่สามารถคาดหวังว่าจะใช้งานอะไรได้มากมายในฤดูกาลนี้

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายตัวเก่งของทีมยังมีร่างกายโรยราลงไปอย่างเห็นได้ชัด กุนซือชาวเยอรมันจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ คอสตาส ซิมิกาส ตัวสำรองชาวกรีซลงสนามแทนในหลายเกม แม้คุณภาพของเขาจะทดแทนโรเบิร์ตสันไม่ได้เลยก็ตาม

โดยล่าสุดในขณะนี้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวหลักแนวรับที่เพิ่งบาดเจ็บไป และนั่นนำมาสู่การถล่มครั้งใหญ่ของไบร์ทตันต่อลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 3-0

เพียงเท่านี้คงเห็นชัดเจนแล้วว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะรับมือกับปัญหาอาการบาดเจ็บของทีมได้ไหว เพราะแม้แต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขุมกำลังแดนหลังแน่นทุกจุดยังไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่เหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้งทัพหงส์แดงในปีนี้ เพราะไม่เพียงแค่แนวรับจะอ่อนยวบ แดนหน้าของพวกเขายังเจอปัญหาอาการบาดเจ็บโจมตีต่อเนื่องไม่แพ้กัน

เริ่มต้นจาก ดิโอโก้ โจต้า ที่ลงสนามในลีกเพียง 4 นัด ก่อนเจ็บยาว, หลุยส์ ดิอาซ ที่ยึดตัวจริงในช่วงแรกราว 8 นัด ก่อนเจ็บยาวไปอีกเช่นกัน และรายล่าสุดคือ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยังไม่ทันจะเรียกความมั่นใจกลับมาหลังฟุตบอลโลก เขาก็เจออาการบาดเจ็บรบกวนโอกาสการลงสนามอีก

นี่คืองานยากของเยอร์เก้น คล็อปป์ หลังจากนี้ เมื่อเขาต้องใช้งาน โคดี้ กัคโป ที่เพิ่งย้ายทีมเข้ามาใหม่ให้เข้าระบบของทีมในทันที เพื่อผนึกกำลังกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในช่วงเวลาหลังจากนี้ ซึ่งเมื่อมองความเป็นไปได้ที่ลิเวอร์พูลจะกลับไปอยู่จุดเดิมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

คำตอบที่รออยู่คือ “แทบไม่มีโอกาส” มาตั้งแต่ต้น เพราะในซีซั่นที่แล้วนั้น แทบไม่มีสักช่วงเวลาที่ทัพหงส์แดงต้องเจอกับมรสุมนักเตะบาดเจ็บหนักมากขนาดนี้เลย

 

 

ผลงานดีตามคาดการณ์ แต่ผลลัพธ์ไม่น่าประทับใจ

เมื่อมองไปยังผลลัพธ์ที่ออกมาตลอด 20 เกมวีคแรกของการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลปัจจุบัน แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล แทบไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า

ทีมรักของพวกเขาสามารถทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง แต่หากมองไปยังวิธีการเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสร้างโอกาส มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เป๊บ กวาดิโอล่า และเยอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงเป็นสองสุดยอดโค้ชแห่งพรีเมียร์ลีก

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในกีฬาฟุตบอลยุคใหม่ หากไม่นับผลลัพธ์ของการแข่งขันแล้ว สิ่งที่เรียกว่า Expected Goals หรือค่าความเป็นไปได้ในการทำประตู (xG) ถือเป็นหลักคิดเชิงสถิติที่กำลังอยู่ในความนิยมของสโมสรฟุตบอลยุคปัจจุบัน เพราะการสร้างค่าความเป็นไปได้ในการทำประตูให้มากขึ้น จะนำมาสู่โอกาสการทำประตูที่มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาดาวยิงระดับโลกเสมอไป

แนวทางนี้จึงได้รับความนิยมอย่างมากในหลายสโมสรที่ยังไม่นักเตะระดับโลก เพราะจุดอ่อนเรื่องเกมรุกและรับสามารถทดแทนได้ด้วยระบบแทคติกชั้นสูงที่เพิ่มความเป็นไปได้ในการทำประตูได้ดั่งใจ โดยหนึ่งในทีมที่ยึดแนวทางนี้เสมอมาคือทัพเรือใบสีฟ้า ซึ่งในฤดูกาลปัจจุบัน พวกเขายังทำผลงานส่วนนี้ออกมาได้ดี เพียงแต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

อ้างอิงจากเว็บไซต์ Understat แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเป็นทีมที่สามารถสร้างค่าความเป็นไปได้ในการทำประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 ด้วยจำนวน 46.17 ประตู และยังคงเป็นทีมที่มีค่าความเป็นไปได้ในการเสียประตู (xGA) น้อยที่สุดในลีกเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวนเพียง 19.38 ประตู

ความยอดเยี่ยมในเชิงสถิติของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตรงนี้ ยืนยันชัดจนว่าพวกเขายังคงเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลปัจจุบัน แม้กระทั่งในส่วนของคะแนนที่คาดการณ์ตามค่าความเป็นไปได้ในการทำประตู (xPTS) ทัพเรือใบสีฟ้ายังคงเป็นอันดับหนึ่งของลีก ด้วยคะแนน 39.52 แต้ม

ปัญหาเดียวที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเจอในขณะนี้ คือพวกเขาเสียประตูง่ายเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น และนั่นตามมาสู่การทำแต้มหลุดมืออย่างต่อเนื่องของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เช่นเดียวกัน

โดยในขณะนี้ ทัพเรือใบสีฟ้าถือเป็นทีมเดียวใน 6 อันดับแรกของตารางพรีเมียร์ลีกที่เสียประตู และทำแต้มหลุดมือมากกว่าค่าความเป็นไปได้ที่ควรจะเป็น ขณะที่คู่แข่งลุ้นแชมป์อย่าง อาร์เซนอล สามารถทำทุกค่าในเชิง xG ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นทั้งหมด

สำหรับ ลิเวอร์พูล แน่นอนว่าพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่แย่กว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาก เพราะเมื่อคำนวนจากคะแนนในส่วน xPTS จะพบว่าทัพหงส์แดงอยู่อันดับ 8 ของตาราง ซึ่งใกล้เคียงกับอันดับปัจจุบันของลิเวอร์พูลในเวลานี้เป็นอย่างมาก เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าทีมดังแห่งแอนฟิลด์มีผลงานที่ย่ำแย่จริง ๆ ในฤดูกาลนี้

อย่างไรก็ดี เมื่อมองไปยังส่วนของค่าความเป็นไปได้ในการทำประตูเพียงอย่างเดียว ลิเวอร์พูลยังคงเป็นทีมที่ถือครองสถิติส่วนนี้มากเป็นอันดับสามของลีก ด้วยจำนวน 41.11 ประตู

นี่คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้มีปัญหาเลยในการสร้างโอกาสการทำประตูให้เกิดขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น เพียงแต่ฟอร์มของดาวยิงตัวหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หรือ ดาร์วิน นูนเญซ ต่างหากที่ทำให้งานของลิเวอร์พูลยากขึ้น

เพราะจนถึงขณะนี้ ลิเวอร์พูล ถือเป็นอีกหนึ่งทีมที่ทำประตูได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะหลังผ่านการแข่งขัน 20 นัด ทัพหงส์แดงยิงได้เพียง 34 ประตู แทนที่ควรจะเป็นไม่ต่ำกว่า 41 ลูก โดยการยิงประตูน้อยกว่าที่ควรจะเป็นอยู่ราว 7 ประตูนี้ ถือเป็นค่าสถิติที่แย่ในระดับเดียวกับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นทีมระดับหนีตกชั้นทั้งหมด

เมื่อบวกกับผลงานในเกมรับที่ย่ำแย่ของลิเวอร์พูลที่พวกเขามีค่าความเป็นไปได้ในการเสียประตูเป็นอันดับ 6 ของลีก นั่นยิ่งทำให้ผลงานของทัพหงส์แดงในฤดูกาลนี้หนักหนาเข้าไปใหญ่ จึงส่งผลให้สถานการณ์ของลิเวอร์พูลในปัจจุบันไม่แตกต่างกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

ทั้งหมดที่กล่าวมาคือเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล กำลังมีปัญหา เพราะการทำแต้มในเชิง xG ให้มากกว่าที่ควรจะเป็น ถือเป็นโจทย์สำคัญสำหรับสโมสรใดก็ตามที่หวังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลปัจจุบัน

โดยจนถึงตอนนี้ มีเพียงอาร์เซนอล และฟูแล่ม เท่านั้น ที่สามารถทำผลงานจริงได้ดีกว่า xG. xGA และ xPTS นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่พวกเขาจะรั้งอันดับ 1 และ 6 ของตารางตามลำดับ หลังผ่านพรีเมียร์ลีกเกมวีคที่ 20 ของฤดูกาลปัจจุบัน

แต่ถึงแม้ผลลัพธ์ที่ออกมาจะแสดงถึงปัญหา นั่นไม่ได้หมายความว่าวิธีการของทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล จะมีปัญหาเสมอไป เพราะไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่น และค่าสถิติเชิงความน่าจะเป็น

ทุกอย่างล้วนสอดคล้องกันอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้งสองทีมกำลังเจอปัญหาใหญ่ที่พวกเขาควบคุมไม่ได้ ก่อนปัญหานั้นจะส่งผลร้ายต่อฟอร์มของพวกเขา โดยกุนซือของทั้งสองทีมไม่ทันได้ตั้งตัว

สิ่งที่ เป๊บ กวาดิโอล่า และเยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการในเวลานี้คือเวลา แม้มันอาจจะสายเกินไปสำหรับทั้งสองทีมในการล่าความสำเร็จบนเวทีพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ แต่การแก้ปัญหาเพื่อเดินหน้าต่อคือสิ่งที่พวกเขาสมควรทำ เพราะทุกอย่างบ่งชี้ชัดเจนแล้วว่า ทั้งสองทีมเจอกับเรื่องราวไม่เป็นใจมากมายเกินกว่าที่แทคติกอันยอดเยี่ยมของพวกเขาจะรับมือไว้ ซึ่งเมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนั้น

เวลา กับ ความอดทน ถือเป็นสองสิ่งที่กุนซือระดับโลกต้องการ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่นักเตะตัวหลักของพวเขาอยู่กันพร้อมหน้า และผู้เล่นสามารถทำผลงานในสนามได้ดีกว่าที่ควรจะเป็น นั่นก็หมายความว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล พร้อมจะกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งและสองของวงการฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้อาจเกิดขึ้นไวมากในแบบที่คุณไม่อาจทันตั้งตัว

 

 

 

หากท่านใดสนใจสมัครให้กดลิ้งนี้ หรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมาได้ที่…

https://member.ufafun88.fun/register/?s=google

หรือแอดไลน์

https://lin.ee/omb8BU5

บริการอื่นๆนอกเหนือจาก หมดยุคของยอดกุนสือ

แชร์บทความนี้ให้เพื่อน

Facebook
Twitter
VK

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *