บ่อนพนันรู้ข่าวนักเตะ-โค้ชย้ายทีมได้ไง

ยิ่งกว่าวงใน : บ่อนพนันรู้ข่าวย้ายทีมโค้ช-นักเตะได้ไง ทำไมออกราคาสุดแม่น ?

บ่อนพนันที่ถูกกฎหมายของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างแท้จริง พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าควรออกราคาเท่าไหร่สำหรับฟุตบอลในแต่ละเกม ?

และที่ยิ่งกว่านั้นคือเรื่องการ ซื้อ-ขาย นักเตะ การแต่งตั้งหรือปลดโค้ช ทำไมบ่อนพนันเหล่านี้จึงรู้ตัวไว เคลื่อนไหวเร็ว จนสำนักข่าวระดับโลกยังต้องอ้างจากการออกราคาของพวกเขา ?

การพนันอยู่คู่มนุษย์

คุณคงเคยได้ยินคำว่าความเห็นไม่ตรงกันการพนันเลยเกิดขึ้น มาสักครั้งในชีวิต และคำ ๆ นี้แหละที่สามารถสร้างเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในโลกใบนี้ … มันคือสิ่งที่ฝังอยู่ใน DNA ของมนุษย์ไม่ว่าจะยุคไหนก็ตาม

ผู้คนทะเลาะและถกเถียงเพราะความเห็นไม่ตรงกันมาตั้งแต่อาศัยอยู่ในถ้ำ แม้แต่ในยุคนั้นไม่มีเงินใช้ ก็ใช้ อาวุธ, เครื่องใช้ในครัวเรือน, สัตว์ หรือ ทาส มาเดิมพันกัน

จนกระทั่งเริ่มมีการแข่งขันโอลิมปิกในกรีกโบราณ เมื่อราว 770 ปีก่อนคริสตกาล การนพนันในการแข่งขันจึงเริ่มขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่ในยุคนั้นเดิมพันกับนักสู้แกลดิเอเตอร์, การแข่งขันมาศึก ไล่เรียงประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงยุคใหม่ กีฬาชนิดแรกที่มีการเดิมพันกันคือแข่งม้าโดยเกิดขึ้นในปี 1766 โดย ริชาร์ด เท็ตเตอร์ซอล และเขาคนนี้นี่เองคนแรก ๆ ที่ทำให้การแทงม้า ดึงดูดผู้คนจำนวนมหาศาลผ่านการออกราคา ซึ่งเป็นศิลปะขั้นสูง ที่ถูกนำมาต่อยอดในกีฬาฟุตบอลจนถึงปัจจุบันเลยก็ว่าได้

บ่อนพนันที่โด่งดังที่สุดของอังกฤษเกิดขึ้นในปี 1934 คือ วิลเลี่ยม ฮิลล์ ก่อนการพนันในอังกฤษจะถูกกฎหมายในปี 1961 … และจากนั้นบ่อนพนันถูกกฎหมายเป็นหมื่น ๆ แห่งก็ได้ก่อกำเนิดหลังจากนั้น และแน่นอนว่าในเมื่อการเดิมพันมันง่ายและถูกต้อง การเดิมพันจึงหลากหลายขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องของผลการแข่งขันเท่านั้น แม้กระทั่งการย้ายทีมของนักเตะ การปลดหรือแต่งตั้งโค้ช การทายคนยิงประตู ไปจนถึงเรื่องนอกจากกีฬาเช่น การเดิมพันว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา, การเลือกตั้งภายในประเทศ

นี่คือประวัติคร่าว ๆ ของวงการพนัน แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการออกราคา หรือเรตการเดิมพันชนิดต่าง ๆ … พวกเขาทำอย่างไรจึงออกราคาที่ทำให้นักพนันต้องคิดหนัก เดายากว่าจะแทงอะไร ?

และที่สำคัญกว่านั้นคือในเรื่องของการซื้อ-ขาย,ย้ายทีม พวกเขากลายเป็นตัวตั้งตัวตีจนทำให้สำนักข่าวยังต้องเอาเรตราคาที่เว็บพนันเหล่านี้ออกราคามาเขียนเป็นข่าวเพื่ออ้างอิงความน่าจะเป็น พวกเขาทำแบบไหนกันแน่ ?

เกมที่โต๊ะยากจะเสีย

หลายคนบอกว่า “การพนันมีแต่โต๊ะเท่านั้นที่ชนะ” นี่คือความจริงเกือบทั้งหมดที่พอจะยึดถือมาเป็นแนวคิดได้ เพราะนับตั้งแต่อดีตจนถึงยุคที่การพนันในอังกฤษถูกกฎหมาย เจ้ามือมีสิทธิขาดในเลือกรับเดิมพัน และออกราคา … สิ่งไหนที่แบเบอร์ พวกเขาก็ไม่สนใจ ไม่รับเดิมพัน หรือปิดราคาทันที

ส่วนการเปิดรับแทงนั้น จะพิจารณาองค์ประกอบหลักสองประการ

1. ความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น แมนฯ ซิตี้ เจอกับทีมดิวิชั่น 15 จากประเทศกัมพูชา ..เกมนี้ ซิตี้ ชนะแบเบอร์ พวกเขาอาจจะไม่เปิดราคาให้แทงเลย เพราะที่อังกฤษนิยมราคาแบบเอเชียนแฮนดิแคป (ครึ่งลูก,ลูกครึ่ง,2 ลูกครึ่งควบ 3) แบบที่เราคุ้นเคย พวกเขาเน้นกันที่เรตแพ้ ชนะ เสมอ ดังนั้น ถ้าพวกเขาจะเปิดราคาในเกมนี้ อัตราการจ่ายของ ซิตี้ จะต่ำมาก ๆ สุด แทบจะติดเตี้ยเรี่ยดิน หรือไม่ก็ไม่เปิดราคาไปเลย เพราะมองว่าทีมรองไม่มีเหลี่ยมมุมไหนต้านทานได้อยู่แล้ว …

2. ความน่าจะเป็นที่นักพนันจะเดิมพันกับผลลัพธ์นั้น ๆ มีเพียงการปรับองค์ประกอบเหล่านี้ให้สมดุลเท่านั้นจึงจะมีโอกาสทำกำไรได้ … ตรงนี้คุณอาจจะงง เราจะยกตัวอย่างเกมแมนฯ ซิตี้ กับทีมดิวิชั่น 15 ของลีกกัมพูชาอีกสักครั้ง … โต๊ะรู้ว่าซิตี้ชนะแน่ พวกเขาจึงปิดรับแทงฝั่ง ซิตี้ แต่พวกเขาก็เปิดหน้าให้คนชอบมวยรอง หรือคนที่ไม่รู้เรื่องความต่างของทั้งสองทีม โดยใช้อัตราการจ่ายมาล่อ เช่นถ้าแทงว่าทีมดิวิชั่น 15 จากัมพูชา จะ ยิงประตูแมนฯ ซิตี้ ได้ โต๊ะพร้อมจะจ่ายเงินเป็นจำนวนถึง 200 ต่อ ถ้าเสมอได้จ่าย 300 ต่อ หรือถ้าชนะได้ก็จะจ่าย 500 ต่อ

เมื่อเห็นอัตราการจ่ายระดับนี้ก็ทำให้นักพนันตาวาว พร้อมจะเสี่ยงลงเดิมพันที่มีโอกาสเสียมากกว่าได้ในลักษณะนี้เป็นต้น

ส่วนเรื่องของการออกรารานั้นคำนวณโดยการประเมินข้อมูลทางสถิติ รูปแบบ และประวัติ ยิ่งในเกมใหญ่ ๆ เป็นที่นิยม ข้อมูลก็ยิ่งมากขึ้น อัตราการต่อรองก็ยิ่งแม่นยำในการกินเงินของนักพนันมากขึ้น เรียกได้ว่าพวกเขาจะมีการคำนวณระดับจุดทศนิยม เพื่อทำเงินจากตัวเลขเหล่านี้มากขึ้นไปอีก

โดยแต่ละบริษัทพนัน จะมีตำแหน่งที่ชื่อว่า ‘Odds Compilers’ ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดอัตราต่อรองสำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดที่บริษัททำการเดิมพัน พวกเขาอ้างอิงจากข้อมูลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะในชิงตัวเลข หรือแม้กระทั่งข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับผู้คนหรือทีมที่ลงแข่งขัน หรือที่เราเรียกกันว่า “วงใน” นั่นเอง

แน่นอนว่าไม่มีการเปิดเผยตัวตนของวงในเหล่านี้ แต่ของมูลของคนจำพวกนี้มีมูลค่าสูงมาก บางครั้งพวกเขาอาจจะไม่ได้บอกถึงขั้นว่าทีมไหนจะชนะ แต่จะเป็นการแจ้งข้อมูลสำคัญที่มีแต่คนวงในที่รู้เช่น กองหน้าดาวซัลโวของทีมนี้เพิ่งไปเมาเละเทะก่อนวันเเข่งเป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เองที่ทำให้อัตราระดับจุดทศนิยมขยับขึ้นลง ทำให้นักพนันหลงกลของตัวเลขที่เพิ่มขึ้นได้โดยง่าย

สิ่งที่ลึกยิ่งกว่านั้น ?

อย่างที่เราได้กล่าวไปคือนอกจากความสุดยอดในการออกราคาแล้วในการทายผลการแข่งขัน สิ่งหนึ่งที่น่าเหลือเชื่อคือการย้ายทีม ยกตัวอย่างเช่นในวันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมองหาโค้ชในช่วงปี 2022 บ่อนพนันก็ปรากฎชื่อของโค้ชต่าง ๆ มากมายรวมถึง เอริค เทน ฮาก และเมื่อยิ่งเข้าใกล้วันเซ็นสัญญาและเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคาของ เทน ฮาก ก็ถูกปรับให้จ่ายน้อยลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งปิดราคาในท้ายที่สุด

คำถามคือทำไมพวกเขาถึงเดาเรื่องนี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ?

เรื่องนี้เอาจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ต่างกับการออกราคาทายผลการแข่งขันเท่าไรนัก ยกตัวอย่างในกรณีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้ง เทน ฮาก นั้น นับตั้งแต่วันที่มีข่าว สำนักข่าวเจ้าใหญ่ก็เปิดออกมาหมดแล้วว่าแคนดิเดตแต่ละคนมีใครบ้าง และคนไหนมีโอกาสจะเข้าวินที่สุด พวกเขาก็เริ่มออกราคาแบบกว้าง ๆ โดยเอารายชื่อทั้งหมดมาเป็นที่ตั้ง และกำหนดเรตราคาจากที่เหล่านักข่าววงในต่าง ๆ ประกาศออกสื่อนั่นแหละ

แต่ศิลปะแห่งการเป็นโต๊ะนั้นก็ค่อนข้างซับซ้อน หลังจากที่พวกเขาหว่านแหแบบกว้าง ๆ ไป หลังจากนั้นข้อมูลจากเหล่าวงนอกวงในที่อัพเดทกันแต่ละนาทีต่อนาที มีผลอย่างมากที่ทำให้บ่อนปรับราคาขึ้น – ลง

หาก ‘Odds Compilers’ คำนวณจุดทศนิยมในการทายผลการแข่งขัน ผ่านข่าวคราวนักเตะบาดเจ็บทั้งแบบออกสื่อและไม่ได้ออกสื่อ พวกเขาก็จะเห็นภาพกว้างชัดขึ้นว่าทีมไหนมีโอกาสจะชนะมากกว่ากัน

เช่นเดียวกันกับการออก และการปรับราคาการย้ายทีมของนักเตะ หรือการแต่งตั้งโค้ชนี่แหละ พวกเขาไขปริศนาเหมือนกับเกม ๆ หนึ่ง ด้วยการเอาข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ มาประกอบกัน จากนั้นจึงใช้ประสบการณ์ และข้อมูลที่มีทั้งหมดวิเคราะห์เอาว่าปรับให้โค้ชคนไหนขึ้นมาเป็นเต็ง 1 ในการรับงานกับทีม ๆ นี้

คำถามต่อมาคือในเมื่อโต๊ะก็เอาข่าวมาจากเหล่านักข่าววงในทั้งหลาย ทำไมสำนักข่าวต่าง ๆ จึงต้องเอาราคาของโต๊ะมาอ้างอิง ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลที่ส่งให้กับโต๊ะก็เป็นข้อมูลที่มาจากพวกเขาเองทั้งนั้น ?

คำตอบคือ โต๊ะ มีสิ่งแม่นยำพอ ๆ พอ ๆ กับข้อมูลวงในหรือสถิติ เป็นอีก 1 หมัดเด็ดของพวกเขา นั่นคือพวกเขาเห็นยอดการพนันทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการเดิมพันครั้งนี้

ยกตัวอย่างเช่นการแต่งตั้งกุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2022 อีกครั้ง ตอนนั้นเหลือม้าอยู่ 2 ตัวก่อนทุกอย่างจะชัดเจนนั่นคือ เอริค เทน ฮาก และ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่มีข่าวกับ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ตอนทำทีม สเปอร์ส ในช่วงปี 2018 แล้ว

ว่ากันว่าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเซ็นสัญญา ยอดเดิมพันนของนักพนันโหมกระหน่ำมาแทงฝั่ง เทน ฮาก กันแบบมืดฟ้ามัวดิน .. นั่นเองเป็นที่มาของคำว่า “บ่อนผวา” ที่เราเห็นบนพาดหัวข่าวบ่อย ๆ

อยู่ดี ๆ คนที่เป็นเต็ง 2 มีอัตราการจ่ายแทง 1 จ่าย 12(สมมุติ) กลับมีคนโหมมาแทงเพิ่มขึ้นหลายเท่าจากวันแรก ๆ โต๊ะก็จะรีบจับสังเกตจุดนี้ได้ทันที และมีการเปลี่ยนอัตราการจ่ายให้น้อยลง เพื่อให้พวกเขาเสียเงินน้อยลง หรือถ้าสุดท้ายแล้งวคดีพลิก พวกเขาก็จะได้เงินจากนักพนันมากขึ้นด้วย

ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่เกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล โต๊ะพนันถูกกฎหมายทุกโต๊ะมีอีก 1 ตำแหน่งที่นั่นคือผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบยอดการเดิมพัน คนพวกนี้จะตรวจสอบการเดิมพันทั้งหมดเพื่อหาว่ามีอะไรที่ผิดปกฎติหรือไม่ ยกตัวอย่างง่าย ๆ คืออยู่ดี ๆ มีนักพนันคนหนึ่งเดินเข้ามาและวางเงินเดิมพัน 1 ล้านปอนด์ สำหรับ เอริค เทน ฮาก โดยที่นักพนันคนนี้ไม่มีประวัติการเดิมพันมาก่อน … พวกเขาก็จะรู้ได้ทันทีว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น และจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะประเมินว่านักพนันรายได้ ได้รับประโยชน์ หรือเอาข้อมูลมาจากคนในหรือไม่

นี่ไม่ใช่เรื่องที่คิดไปเองหรือกล่าวขึ้นมาลอย ๆ ไอแวน โทนี่ย์ กองหน้าของ เบรนท์ฟอร์ด เคยเดิมพันการแข่งขันของตัวเองด้วยการ “ฝากเพื่อนแทง”, คีแรน ทริปเปียร์ เคยบอกให้เพื่อนของเขาไปแทงกับโต๊ะว่าเขาจะย้ายไป แอตฯ มาดริด …ข้อมูลเหล่านี้คนที่รู้เป็นคนแรกก็คือโต๊ะพนันเหล่านี้นี่เอง นั่นแสดงให้เห็นว่าโต๊ะรู้มากขนาดไหน ?

เมื่อถือข้อมูลอยู่ในมือพวกเขาจะทำอะไรก็ได้ วันดีคืนดีพวกเขาอาจจะปั่นหัวนักพนันด้วยการเปิดราคาในแบบที่เรียกว่า “ล่อแมงเม่า” เพื่อให้คนแห่มาแทงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งที่จริง ๆ แล้วพวกเขารู้อยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น .. อาทิ การเปิดราคาว่า เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ จะยิงประตูใส่ทีม ดิวิชั่น 15 ของลีกกัมพูชา ให้คนแห่มาแทง เพราะรู้ว่ายังไง ฮาลันด์ ก็ต้องมีประตูสักลูกกับทีมอ่อนชั้นกว่าขนาดนี้

แต่อันที่จริงโต๊ะอาจจะรู้ข้อมูลก่อนแล้วว่าในเกม ๆ นี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะส่ง ฮาลันด์ ลงสนามแค่ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ดังนั้นแมงเม่าทั้งหลาย ก็มีโอกาสที่จะเสียมากกว่าได้อย่างไม่ต้่องสงสัย

โดยสรุปแล้วคือบ่อนพนันอยู่คู่กับสังคมอังกฤษมามากกว่า 300 ปี มันกลายเป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึก และถ้ามันไม่ทำกำไร ก็คงไม่มีโต๊ะพนันจนถึงทุกวันนี้แน่อนน …มันเป็นเรื่องที่อาจจะไม่มีใครมาเปิดเผยแต่เราก็พอจะเดาออก เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์ ที่ใดมีผลประโยชน์ ที่นั่นก็ไม่ความลับที่แท้จริง ข้อมูลต่าง ๆ ล้วนมีราคา และถ้าข้อมูลนั้นสร้างผลตอบแทนมหาศาลทำไมโต๊ะที่เงินมากมายจะไม่ยอมจ่ายเพื่อได้มันมาล่ะ ?

ยิ่งพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญที่เห็นการพนันและโอกาสอีกแบบแตกต่างจากที่คนธรรมดาที่เป็นนักพนันเห็น พวกเขาก็สามารถพลิกแพลงราคา หาช่องทางการทำเงินจนได้ แม้ว่าที่สุดแล้วการพนันนั้นจะแบเบอร์แค่ไหนก็ตาม

ดังนั้นข้อมูลลึก ๆ และการขยับตัวเพื่อทำให้ตัวเองได้กำไรมากกว่าเดิม หรือถ้าขาดทุนก็ต้องขาดทุนน้อยที่สุดนี้เอง จึงเป็นสิ่งที่สามารถเอามาอ้างอิงบนหน้าข่าวได้เสมอ ทุกวันนี้บนพาดหัวข่าวเราก็ยังได้เห็นคำว่า “บ่อนผวา” “บ่อนหั่นราคา” “บ่อนปิดรับแทง” อยู่เสมอ … มันแสดงให้เห็นว่าการพนันในอังกฤษมีเงินหมุนเวียนอย่างมหาศาล และข้อมูลจากโต๊ะที่เป็น “ผู้ชนะอยู่เสมอ” จึงน่าเชื่อถือและอย่าได้ดูถูกพลังแห่งการคาดการณ์ของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

หากท่านใดสนใจสมัครให้กดลิ้งนี้ หรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมาได้ที่…