เงินหนา+สาวก : เจาะประวัติ “กลุ่มทุนกาตาร์” ตัวเต็งเจ้าของใหม่ แมนฯ ยูไนเต็ด
นับตั้งแต่มีข่าวว่า ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบันกำลังพิจารณาที่จะขายสโมสรหลังพวกเขาเป็นเจ้าของมานานกว่า 18 ปี ทำให้บรรดากลุ่มทุนทั่วโลกต่างเข้ามาให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก เพราะพวกเขาต่างมองว่าทัพ “ปีศาจแดง” เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีความเป็นธุรกิจสูง อีกทั้งในอดีตสโมสรแห่งนี้ก็ถือว่าเป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และมีฐานแฟนบอลอยู่มากมาย เหมาะกับการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
โดยหนึ่งในกลุ่มทุนที่สนใจจะเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด และดูมีความเป็นไปได้มากที่สุดจนกลายเป็น “เต็ง 1” ในเวลานี้คือ กลุ่มทุนจากประเทศกาตาร์
ทำความรู้จักกับ QIA
กลุ่มทุนจากประเทศกาตาร์ที่ต้องการจะเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีชื่อว่า กลุ่มองค์การการลงทุนของประเทศกาตาร์ หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Qatar Investment Authority (QIA)
QIA เป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของกาตาร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดย ชีค ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ในขณะนั้น เพื่อบริหารจัดการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติส่วนเกินของรัฐบาลกาตาร์ ตลอดจนกระจายสินทรัพย์สู่การลงทุนในภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาราคาพลังงานของกาตาร์ ซึ่งในปัจจุบัน กลุ่ม QIA มีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 4.45 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ Qatar Investment Authority ยังมีบริษัทย่อยที่อยู่ภายใต้การดูแลอีกมากมาย เช่น Qatar Holding LLC เป็นบริษัทที่จัดการกองทุนสำรองของรัฐกาตาร์ และมีหุ้นกับธนาคารอีกหลายแห่งทั้ง Qatar National Bank (50%), Qatar Islamic Bank (16.67%) และ Ubac Curaçao NV (1.35%) รวมถึงเป็นบริษัทแม่ของ Qatar Sports Investments (QSI) ที่แฟนฟุตบอลทราบดีว่าเป็นเจ้าของสโมสร ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง
ทำไมถึงต้องการเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ?
สาเหตุที่กลุ่มทุน QIA อยากจะเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว เพราะว่า ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี บุตรชายคนที่ 4 ของ ชีค ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล ธานี ซึ่งดำรงตำแหน่งเอมีร์ หรือเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ในปัจจุบัน เป็นแฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด มานานแล้ว จากการที่เคยไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ทำให้พระองค์หลงใหลในกีฬาฟุตบอลและชื่นชอบสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่อย่างทีมปีศาจแดง
และเมื่อเห็นว่าตระกูลเกลเซอร์มีโอกาสที่จะขายสโมสร พระองค์ก็ให้ความสนใจในการเข้าเทคโอเวอร์ต่อทันที โดยกลุ่มทุน QIA พร้อมทุ่มเงินอย่างมหาศาลเพื่อซื้อสิทธิ์การเป็นเจ้าของทีมต่อจากตระกูลเกลเซอร์แบบเบ็ดเสร็จ 100% อีกทั้งอาจจะมีการทุ่มงบประมาณเพิ่มเติมในการปรับปรุงสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด และก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกด้วย
ซึ่งถ้าพวกเขาได้เป็นเจ้าของสโมสรายใหม่จริง ๆ พวกเขาก็พร้อมจะทุ่มเงินให้ เอริค เทน ฮาก อย่างเต็มที่เพื่อให้ทีมกลับมาอยู่ในจุดสูงสุดอีกครั้ง
ต้องส่งตัวแทนมาเทคโอเวอร์
ก่อนหน้านี้สื่อในอังกฤษอย่าง Daily Mail เคยออกมาวิเคราะห์ว่า ถ้า ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี อยากจะใช้ชื่อของเขา ตลอดจน QIA ในการมีส่วนร่วมเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้
เพราะทุกคนทราบดีว่า ชีค ทามิม คือเบื้องหลังคนสำคัญของ QIA อันเป็นบริษัทแม่ของ QSI เจ้าของทีมเปแอสเช ซึ่งจะกระทบโดยตรงต่อกฎของ UEFA ที่ระบุว่า “1 เจ้าของสามารถมีสโมสรลงเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ไม่เกิน 1 สโมสร” ทำให้กลุ่มทุนดังกล่าวจำเป็นต้องหาทางออกให้กับเรื่องนี้
และก็เหมือนจะมีแผนการเตรียมเอาไว้แล้วด้วยการส่ง ชีค จาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี ลูกชายของ ชีค ฮาหมัด บิน จาสซิม บิน จาเบอร์ อัล ธานี ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของกาตาร์ ระหว่างปี 2007 ถึง 2013 และเป็นคนในตระกูล อัล ธานี ที่ปกครองประเทศกาตาร์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อันมีวงศาคณาญาติกว้างไกล
ปัจจุบันนี้ ชีค จาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี ดำรงตำแหน่งเป็นประธานให้กับ ธนาคารอิสลามของกาตาร์ หรือ Qatar Islamic Bank ตัวย่อ QIB ซึ่งมี QIA ถือหุ้นใหญ่อยู่แล้ว และ ชีค จาสซิม ก็เป็นแฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกัน จากการที่เขาดูฟุตบอลอังกฤษมาตั้งแต่ปี 1992
ซึ่ง ชีค จาสซิม ก็ได้ประกาศแล้วว่าจะลงทุนให้กับทีมฟุตบอลชาย ฟุตบอลหญิง ทีมอะคาเดมี รวมไปถึงจะมีการปรับปรุงสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด สนามซ้อมแคร์ริงตัน และบริเวณรอบ ๆ สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วย
พร้อมทุ่มเพื่อเอาชนะทุกข้อเสนอ
หลังจากที่ตระกูลเกลเซอร์พร้อมรับฟังข้อเสนอในการขายสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด บรรดากลุ่มทุนที่ให้ความสนใจก็เริ่มมีการพูดคุยกันภายในเพื่อหาข้อตกลงเรื่องตัวเลขก่อนที่จะมีการยื่นข้อเสนอให้กับ Raine Group หรือ ธนาคารเรน ซึ่งเป็นธนาคารที่คอยทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการเงินและเป็นตัวกลางที่คอยประสานในการซื้อ-ขายสโมสรเหมือนอย่างที่ปิดดีลซื้อ-ขายให้กับ เชลซี ไปเมื่อช่วงกลางปี 2022
โดย ชีค จาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี ได้มีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการไปให้กับธนาคารเรนแล้ว พร้อมทั้งยังออกแถลงการณ์ผ่านสื่อด้วยข้อความที่ระบุไว้ดังนี้
“ชีค จาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี ยืนยันการยื่นประมูล 100 เปอร์เซ็นต์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันนี้ [วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023] การประมูลวางแผนที่จะทำให้สโมสรกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีตทั้งในและนอกสนาม และเหนือสิ่งอื่นใดจะพยายามให้แฟนบอลเป็นหัวใจสำคัญของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง”
“การประมูลจะปลอดหนี้โดยสมบูรณ์ผ่านมูลนิธิ Nine Two Foundation ของ ชีค จาสซิม ซึ่งจะมีการลงทุนในทีมฟุตบอล, ศูนย์ฝึกซ้อม, สนามกีฬา และโครงสร้างพื้นฐานที่กว้างขึ้น รวมถึงกลุ่มแฟนบอลของสโมสรจะต้องได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีที่สุด”
“วิสัยทัศน์ของการประมูลคือ การให้สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีชื่อเสียงในด้านความเป็นเลิศด้านฟุตบอล และได้รับการยกย่องว่าเป็นสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
“รายละเอียดเพิ่มเติมของการเสนอราคาจะได้รับการเผยแพร่ตามความเหมาะสม หากว่าเมื่อใดที่กระบวนการเสนอราคามีการเปลี่ยนแปลง”
ทั้งนี้รายละเอียดเรื่องของตัวเลขยังไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างชัดเจน แต่สื่ออย่าง Sky Sports ก็คาดว่า ชีค จาสซิม น่าจะยื่นข้อเสนอด้วยมูลค่าประมาณ 4.5-5 พันล้านปอนด์ ซึ่งกลุ่มทุนจากกาตาร์อาจจะต้องแข่งกับกลุ่มทุนอื่น ๆ ที่ก็เริ่มมีการยื่นข้อเสนอมาแล้วเหมือนกัน เช่น เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ เจ้าของกลุ่ม INEOS บริษัทเคมีภัณฑ์ชื่อดัง ที่พร้อมทุ่มข้อเสนอในราคาประมาณ 4 พันล้านปอนด์
รวมถึง เอลเลียตต์ แมเนจเมนต์ (Elliott Management) บริษัทจัดการลงทุนจากสหรัฐอเมริกา อดีตเจ้าของทีม เอซี มิลาน ที่ยึดทีมจาก หลี่ หยงหง ซึ่งกู้เงินจากเอลเลียตต์มาซื้อสโมสรแล้วผิดชำระหนี้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 ก่อนบริหารจนทีมกลับมามีกำไรตลอดจนคว้าแชมป์เซเรีย อา และขายทีมให้กลุ่ม เรดเบิร์ด แคปิตอล (RedBird Capital) เมื่อเดือนมิถุนายน 2022 ก็ได้มีการยื่นข้อเสนอไปแล้วในช่วงนาทีสุดท้ายของเดดไลน์ที่ตั้งเอาไว้ แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการออกมา
แม้ว่าตอนนี้เดดไลน์ในการยื่นข้อเสนอจะผ่านไปแล้วก็ตาม แต่กลุ่มทุนอื่น ๆ ที่ให้ความสนใจยังสามารถยื่นข้อเสนอเข้ามาได้ เพราะธนาคารเรนน่าจะยังไม่ได้เริ่มต้นกระบวนการตรวจสอบการเงินของกลุ่มทุนใด ๆ ในเวลานี้ อีกทั้งข้อเสนอที่ได้ยื่นมาแล้วก็ยังไม่มีข้อเสนอใดที่ใกล้เคียงกับที่ตระกูลเกลเซอร์ต้องการ โดยตระกูลเกลเซอร์ต้องการข้อเสนอเป็นตัวเลขประมาณ 6-7 พันล้านปอนด์ ทั้งที่พวกเขาซื้อสโมสรมาในราคาแค่ 790 ล้านปอนด์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สาวกปีศาจแดงยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วกลุ่มทุนใดกันแน่ที่จะได้สิทธิ์เป็นเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายใหม่ แต่จนถึงตอนนี้สื่อทุกสำนักก็ออกมารายงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า กลุ่มทุนกาตาร์ ดูจะเป็นตัวเต็งอันดับ 1 และมีโอกาสความเป็นไปได้มากที่สุด
หากท่านใดสนใจสมัครให้กดลิ้งนี้ หรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมาได้ที่…
https://member.ufafun88.fun/register/?s=google
หรือแอดไลน์