“ช่วยหรือไม่” การทดเวลาแบบใหม่

ช่วยหรือไม่ ? : กฎทดเวลาพรีเมียร์ลีกแบบใหม่ มีผลอย่างไรต่อการแข่งขัน ?

ในฤดูกาล 2023/24 พรีเมียร์ลีกได้ประกาศเปลี่ยน กฎการทดเวลาบาดเจ็บ ให้ชดเชยเวลาที่เสียไปในระหว่างการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น จนการทดเวลาหลักสิบนาทีเริ่มกลายเป็นภาพที่คุ้นตาในแต่ละนัดไปเสียแล้ว

แม้เสียงตอบรับจากนักเตะหลายคนจะไม่เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนดังกล่าว เช่นเดียวกับฟุตบอลยุโรปของ UEFA ที่จะไม่นำการทดเวลาแบบเดียวกับฟุตบอลโลก 2022 มาใช้ในรายการทั้งสามของพวกเขา แต่ ฮาร์เวิร์ด เว็บบ์ หัวหน้าคณะผู้ตัดสินขององค์กร PGMOL ที่ดูแลและรับผิดชอบผู้ตัดสินในพรีเมียร์ลีก และฟุตบอลลีกอังกฤษ ยืนยันว่ากฎดังกล่าวจะยังคงอยู่ต่อไป

กางสถิติ

นับจนถึงช่วงพักเบรกฟุตบอลทีมชาติในต้นเดือนกันยายน มีการแข่งขันพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 39 นัดจากช่วง 4 สัปดาห์แรก ขาดเพียงคู่ระหว่าง ลูตัน ทาวน์ กับ เบิร์นลี่ย์ ที่ถูกเลื่อนออกไปเพื่อให้สนามเหย้าของเจ้าบ้านพร้อมใช้งาน

Opta บริษัทเก็บบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลกีฬาชื่อดัง เปิดเผยว่าในจำนวน 39 นัดที่ผ่านมา มีค่าเฉลี่ยนาทีการแข่งขันที่ 101 นาที 25 วินาที หรือเท่ากับว่ามีการทดเวลาเฉลี่ยเกมละ 11 นาที 25 วินาที มากกว่าการทดเวลาในช่วงฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยการทดเวลา 10 นาที 11 วินาทีในแต่ละแมตช์

แต่นั่นคือเวลาทั้งหมดของการแข่งขันรวมกับช่วงที่มีจังหวะหยุดเล่นไป ไม่ว่าจะเป็นการฟาวล์ เตรียมเล่นลูกตั้งเตะ ฉลองประตู หรือปฐมพยาบาลอาการบาดเจ็บ ซึ่งหากนับแค่ช่วงเวลาที่มีการเล่นบอลในสนามเพียงอย่างเดียวค่าเฉลี่ยในฤดูกาลนี้จะอยู่ที่ 59 นาที 21 วินาที

ตัวเลขนี้อาจดูน้อยเมื่อเทียบกับเวลาการแข่งขันแบบเต็มเกม แต่เป็นค่าที่เพิ่มขึ้นจากฤดูกาลก่อน (2022/23) ซึ่งมีค่าเฉลี่ยการเล่นบอลเพียง 54 นาที 46 วินาที และยังมากกว่าสถิติเดิมที่ Opta เคยบันทึกไว้ในฤดูกาล 2013/14 ถึงเกือบ 3 นาทีด้วยกัน

นอกจากการเปลี่ยนแปลงในระดับพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลลีกระดับรองลงมาของอังกฤษ ทั้งแชมเปี้ยนชิพ ลีกวัน และลีกทู ก็ได้ปรับกฎการทดเวลาเช่นกัน โดยผลลัพธ์เมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้วพบว่าเวลาการเล่นบอลในสนามเพิ่มขึ้นสอดคล้องกัน และมากสุดในระดับลีกทู จากเพียง 49% ของเวลาลงเล่นจริงในซีซั่น 2022/23 เพิ่มมาเป็น 54% ในฤดูกาลนี้

พรีเมียร์ลีกและฟุตบอลลีกอังกฤษทำอย่างไรให้ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้ ?

ความเข้มของกฎ

สิ่งแรกที่เปลี่ยนแปลงไปคือการทดเวลาที่สอดคล้องกับเวลาที่เสียไปมากขึ้น เพราะปกติผู้ตัดสินจะทดเวลาเพิ่ม 30 วินาทีให้กับจังหวะการฉลองประตูและการเปลี่ยนตัวผู้เล่นแต่ละครั้ง ซึ่งเคยเป็นจุดที่ทีมต่าง ๆ สามารถใช้ช่องโหว่เพื่อถ่วงเวลาได้ เช่น คริสตัล พาเลซ ที่ใช้เวลาฉลองประตูเฉลี่ยครั้งละ 85 วินาทีในซีซั่นที่แล้ว

ทำให้ในฤดูกาลนี้ผู้ตัดสินจะบันทึกเวลาของเกมที่หยุดไปอย่างแม่นยำ เพื่อนำเวลาทั้งหมดมาทดเพิ่มหลังจากหมดเวลาปกติ แต่กับจังหวะการฟาวล์หรือช่วงเวลาที่บอลออกนอกสนามไปยังเป็นจุดที่ผู้เล่นอาจดึงเวลาได้อยู่

นี่คือจุดที่การปรับกฎความเข้มงวดของผู้ตัดสินเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะกรรมการสามารถให้ใบเหลืองกับผู้เล่นที่จงใจถ่วงเวลา แม้จะเป็นการเตะหรือขว้างบอลทิ้งเบา ๆ ก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการพยายามถ่วงเวลา

จากจำนวนใบเหลือง 186 ใบที่ถูกแจกใน 39 เกมแรก มีมากถึง 24 ครั้งที่มาจากข้อหาถ่วงเวลา โดยในสัปดาห์ที่สองของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มีการแจกใบเหลืองข้อหาถ่วงเวลาถึง 10 ใบ รวมถึงกรณี ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ที่โดนใบเหลืองแรกจากการทุ่มบอลช้า จนนำไปสู่ใบเหลือง-แดงไล่ออกในเกมบุกชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0

นอกจากใบเหลืองออกง่ายแล้ว พรีเมียร์ลีกยังได้คงการใช้ลูกฟุตบอล 9 ลูกทั่วสนามที่ถูกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2022/23 เพื่อให้นักเตะสามารถนำบอลกลับมาเล่นได้รวดเร็วขึ้น เป็นอีกวิธีเพื่อลดการเสียเวลาจากการรอเล่นบอลเพียงลูกเดียวในอดีต

การทดเวลานานขึ้นอาจช่วยเพิ่มเวลาการเล่นได้จริง แต่มันมีราคาที่นักเตะต้องจ่ายหรือไม่ ?

เล่นนานเกินไป

การศึกษาในปี 2021 โดยสหภาพนักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ หรือ FIFPRO พบว่านักเตะอาชีพต้องลงเล่นมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะได้รับการพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกายไม่เพียงพอ ก่อนออกมาเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงกฎของพรีเมียร์ลีกว่าอาจหมายถึงจำนวนนัดที่เพิ่มขึ้นอีก 3 แมตช์จากแค่การทดเวลาเพียงอย่างเดียว

ราฟาเอล วาราน ปราการหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาทวีตแสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎดังกล่าวว่า “ทั้งนักเตะและผู้จัดการทีมต่างกังวลว่าพวกเรามีเกมที่ต้องลงเล่นมากเกินไปมาหลายปีแล้ว ตารางการแข่งขันมันหนาแน่นเกินควร ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพกายและจิตใจของพวกเรา”

เควิน เดอ บรอยน์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎนี้ “สมมติว่าเราจะต้องเล่นต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีในทุก ๆ เกมต่อจากนี้ดูสิ เราได้คุยกับนักเตะอาร์เซนอลหรือแม้กระทั่งผู้ตัดสินแล้ว พวกเขาไม่ต้องการกฎเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ แต่มันเป็นกฎใหม่และมันก็เป็นไปตามนี้แหละ”

แต่นี่ยังเป็นช่วงที่พรีเมียร์ลีกมีการแข่งขันเกมลีกเป็นหลักเท่านั้น ต้องรอติดตามผลลัพธ์เมื่อสโมสรต่าง ๆ ต้องออกไปเล่นฟุตบอลยุโรปหรือฟุตบอลถ้วยในประเทศ ว่าการทดเวลาเพิ่มแบบใหม่จะมีผลต่อความเหนื่อยล้าของผู้เล่น หรือนำไปสู่อาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นแค่ไหน

ทั้งนี้ ฮาร์เวิร์ด เว็บบ์ ระบุชัดเจนไว้ตั้งแต่การปรับกฎแล้วว่า “เราจะยึดมั่นในกฎนี้ไม่เปลี่ยนแปลง เราจะไม่ลดความเข้มงวดนี้ในเดือนตุลาคม มันจะยังคงอยู่ต่อไป เพราะพวกเราต้องรับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลงเกมการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม”

ดังนั้นการดูฟุตบอลนัดละ 100 นาทีกว่าอาจเป็นความปกติใหม่ของฟุตบอลอังกฤษ อย่างน้อยก็ในฤดูกาลนี้ไปโดยปริยาย หากไม่มีการแก้ไขใด ๆ เพิ่มเติม

หากท่านใดสนใจสมัครให้กดลิ้งนี้ หรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมาได้ที่…